มาทำความรู้จัก Internet TV หรือ Smart TV กัน

Internet TV หรือ Smart TV คือทีวีที่มีนวัตกรรมพิเศษในการเข้าชมเว็บไซต์ผ่านทาง web Browser และใช้งาน Widget แอพพลิเคชั่นขนาดเล็ก โดยเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับตัวเครื่องทีวี

การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตกับทีวีมี 2 แบบ

• แบบใช้สาย LAN (Wired) โดยเชื่อมต่อสาย LAN เข้ากับพอร์ตช่องต่อสาย LAN ของทีวีได้เลย
• แบบไร้สาย (Wireless) Wireless Router ก็สามารถเชื่อมต่อแบบไร้สายได้ทันที ทีวีบางรุ่นต้อง USB WiFi Dongle ก่อน แต่บางรุ่นก็มี WiFi Built-in มาในตัวเครื่อง

Internet TV หรือ Smart TV ทำอะไรได้บ้าง

Web Browser สัมผัสประสบการณ์ออนไลน์แบบอินเตอร์แอคทีฟที่เหนือกว่าการค้นหาสั่งซื้อ เชื่อต่อ สร้างเครือข่ายทุกอย่างได้เสมือนใช้งานคอมพิวเตอร์
TV Online สามารถเลือกชมทีวี ย้อนหลัง หรือเลือกดูรายการที่ชื่นชอบได้ โดยไม่ต้องยึดตึดกับช่วงเวลาอีกต่อไป
Skype บนทีวี ช่วยให้คุณใช้บริการฟรีสำหรับการโทรติดต่อทางวิดิโอ Skype-to-Skype ได้ทุกที่ทัวโลกเพียงแค่เสียบกล้องทีวีก็พร้อมใช้งานได้ทันที
Social TV แบ่งปันประสบการณ์กับเพื่อนและครอบครับ ให้คุณเขียนบล็อก และสนทนาผ่านทางเว็บไซต์และบริการต่างๆ อย่าง Facebook,Twitter และ Google Talk ขณะที่คุณกำลังรับชมรายการโทรทัศน์
Application สามารถดาวน์โหลดแอพที่น่าสนใจ เช่น ข่าวสาร เช็คตลาดหุ้น ดูสภาพการจราจร ดูรอบโรงภาพยนต์ มาติดตั้งบนตัวเครื่องเพื่อใช้งานแบบหลักการเดียวกับโทรศัพท์มือถือ Smart Phone ไม่ว่าจะเป็นสภาพอากาศ แผนที่ และข้อมูลตลาดหุ้น
Magic Motion Remote Control เพียงแค่ปุ่มเดียวก็ควบคุมได้ทุกอย่าง หลักการทำงานก็จะคล้ายกับ Wireless Mouse แค่ชี้ไปบนเมนูที่แสดงอยู่บนทีวีแล้วกดปุ่มเลือก คุณก็สามารถควบคุมการใช้งานทีวีได้ง่ายขึ้น ไหลลื่นทุกความบันเทิง

ตำแหน่งวางทีวีที่เหมาะสมที่สุด

ห้องที่ใช้ในการติดตั้งทีวีนั้นควรควบคุมระดับแสงให้เหมาะสม หลีเลี่ยงที่ๆมีแสงสว่างมากเกินไปหรือมีแสงสะท้อนจากหลอดไฟตกกระทบไปที่หน้าจอ

ควรติดตั้งลำโพงให้ห่างจากจอภาพทีวีประมาณ 30-50 ซม. เพราะสนามแม่เหล็กจากลำโพงอาจทำให้ภาพเพี้ยนหรือสีเหลื่อมได้
ควรหลีกเลี่ยงตำแน่งการวางทีวีในจุดที่แสงแดดส่องถึงหรือมีความร้อนสูงหรือเย็นจัด
เพื่อให้ได้คุณภาพของภาพและเสียงที่สมบูรณ์ ควรเลือกใช้สายสัญญาณที่มีคุณภาพสูงควบคู่กันไปด้วย
LCD เครื่องใหม่ควรมีการเปิดใช้งานอย่างสม่ำเสมอ
ต่อเนื่อง(Run-in) ในช่วง2-3สัปดาห์แรกหรือเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 100 ชม. เพื่อให้ทีวีเครื่องใหม่ของคุณทำงานเต็มประสิทธิภาพและสมบูรณ์

ป้องกันอาการจอใหม้และจอค้างให้ห่างTVของคุณ

การที่มีภาพบางส่วนคงค้างอยู่บนจอ ซึ่งภาพที่ค้างนั้น ถ้าเลื่อนหายไปหลังจากที่ใช้งานไปซักระยะหนึ่งจะเรียกว่า "อาการจอค้าง" image retention ถ้าภาพที่ค้างนั้นมองเห็นอย่างถาวรจะเรียกว่า อากการจอใหม้ burn-in สาเหตุหลักๆก็คือ ดูทีวีช่องใดช่องหนึ่งที่มีภาพค้างอยู่ตลอดเป็นเวลานานๆ อย่าง โลโก้ ภาพนิ่งมุมใดมุมหนึ่งจะทำให้เกิดการเสียหายถาวรได้
วิธีป้องกัน
เมื่อดูทีวีธรรมดาที่มีขนาด 4:3 ให้ปรับด้านข้างให้มีสี อย่าปล่อยให้เป็นสีดำ ถ้าไม่ได้แนะนำให้ปรับภาพให้ยืดเต็มจอในโหมด zoom, full
ในกรณีที่เปิดตลอดวันให้ลดค่า contrast และ brightness ให้ลงมาต่ำกว่าเดิม ช่วงที่เกิด burn-in และ image retention ก็คือช่วง 100 ชั่วโมงแรก ถัดจากนั้นคือช่วงที่ยังต้องระวังอยู่ ถ้าพ้นช่วงหนึ่งพันชั่วโมง ฟอสฟอรัสจะเข้าที่และทำงานตามสภาพที่เสื่ม โดยไม่มีการเปลียนแปลงมากมายนัก ใครที่กำลังจะซื้อทีวีใหม่หรือซื้อมาแล้วกลองนำไปใช้ดูครับ